ประกันควบการลงทุน (Unit-linked) คือ ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต ที่รวมเอา ความคุ้มครองชีวิต เข้ากับ การลงทุนในกองทุนรวม ไว้ในกรมธรรม์ฉบับเดียวกันครับ
เบี้ยประกันที่จ่ายจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ ส่วนที่นำไปจ่ายเป็น ค่าใช้จ่ายในการคุ้มครองชีวิต (Cost of Insurance – COI) และส่วนที่นำไปซื้อ หน่วยลงทุนในกองทุนรวม (Investment Unit) ตามที่เลือก
Unit-linked จึงเป็นทางเลือกที่ให้อิสระแก่ผู้ถือกรมธรรม์ในการบริหารพอร์ตการลงทุนและการคุ้มครองชีวิตไปพร้อมๆ กันนั่นเอง
ส่วนประกอบและการทำงาน - ประกันควบการลงทุน (Unit-linked)
เบี้ยประกันที่จ่ายจะถูกบริหารจัดการดังนี้
- หักค่าใช้จ่ายและความคุ้มครอง: บริษัทประกันจะหักค่าใช้จ่ายในการดำเนินการและ ต้นทุนความคุ้มครองชีวิต (COI) ซึ่งจะเพิ่มขึ้นตามอายุของคุณ
- ส่วนที่เหลือไปลงทุน: เงินส่วนที่เหลือจะถูกนำไปซื้อ หน่วยลงทุนในกองทุนรวม ที่บริษัทประกันคัดเลือกไว้ (เรียกว่ากองทุนรวมภายใต้กรมธรรม์ หรือ Fund of Funds) โดยผู้เอาประกันเป็นผู้เลือกสัดส่วนการลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
- ความยืดหยุ่น: มูลค่ากรมธรรม์จะขึ้นอยู่กับ มูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) ซึ่งสามารถเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ตามผลประกอบการของกองทุนที่คุณเลือก
ข้อดีหลักของ Unit-linked
ด้าน | Unit-linked | ประกันชีวิตแบบดั้งเดิม (สะสมทรัพย์/ตลอดชีพ) |
ผลตอบแทน | มี โอกาส ได้รับผลตอบแทนสูงกว่า (ขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานของกองทุน) | ผลตอบแทนถูก การันตี หรือกำหนดไว้ในอัตราที่แน่นอน (มักต่ำกว่า) |
ความยืดหยุ่น | สูงมาก สามารถปรับเพิ่ม/ลดทุนประกัน, หยุดพักชำระเบี้ย, หรือถอนเงินบางส่วนจากมูลค่าหน่วยลงทุนออกมาได้ (ตามเงื่อนไข) | จำกัด การปรับเปลี่ยนทำได้ยากหรือมีค่าใช้จ่ายสูง |
ทุนประกัน | สามารถเลือกกำหนด ทุนประกันชีวิตที่สูง ได้ในขณะที่จ่ายเบี้ยประกันหลักที่ต่ำกว่า เมื่อเทียบกับประกันแบบดั้งเดิม | ทุนประกันถูกกำหนดไว้ตายตัวตั้งแต่ต้น |
การบริหารเงินลงทุน | ผู้เอาประกันสามารถ เลือกกองทุน และปรับสัดส่วนการลงทุนได้เอง (Switching Fund) | บริษัทประกันเป็นผู้บริหารเงินส่วนนี้เอง โดยมีกฎระเบียบเข้มงวด |
ข้อควรระวังที่ต้องรู้
- ความเสี่ยงจากการลงทุน: ผลตอบแทน ไม่ถูกการันตี มูลค่าหน่วยลงทุนอาจลดลงได้ หากกองทุนที่เลือกขาดทุน ผู้เอาประกันต้องรับความเสี่ยงเองทั้งหมด
- ความคุ้มครองมีวันสิ้นสุด (ถ้าพอร์ตติดลบ): หากผลตอบแทนติดลบหรือไม่ได้ตามเป้า หมายความว่ามูลค่าหน่วยลงทุนในพอร์ตจะลดลง ซึ่งอาจทำให้เงินไม่พอหัก ค่า COI ในระยะยาว ผู้เอาประกันอาจต้องจ่ายเบี้ยเพิ่ม หรือกรมธรรม์อาจสิ้นสุดความคุ้มครองก่อนกำหนด
- ค่าธรรมเนียมสูงในช่วงแรก: ในช่วง 1–5 ปีแรก เบี้ยประกันที่จ่ายไปจะถูกหักค่าธรรมเนียมการดำเนินงานสูงมาก ทำให้เงินส่วนที่นำไปลงทุนเริ่มต้นมีน้อยกว่าที่คาดไว้
- การลดหย่อนภาษี: ส่วนที่นำไปลดหย่อนภาษีได้คือเบี้ยประกันส่วนที่เป็นความคุ้มครอง (COI) เท่านั้น ไม่ใช่เบี้ยประกันทั้งหมดที่คุณจ่าย (ซึ่งแตกต่างจากประกันชีวิตทั่วไปที่เบี้ยทั้งหมดมักนำไปลดหย่อนภาษีได้เต็มจำนวน)
Unit-linked เหมาะกับใคร?
ประกันควบการลงทุนจะเหมาะสมที่สุดกับผู้ที่:
- ต้องการทุนประกันชีวิตสูง: ต้องการความคุ้มครองชีวิตที่สูง เพื่อเป็นหลักประกันให้ครอบครัว
- มีความรู้ความเข้าใจด้านการลงทุน: สามารถเลือกกองทุนและรับความเสี่ยงจากการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ได้
- มีเป้าหมายระยะยาว: เน้นการสะสมความมั่งคั่งเพื่อเป้าหมายในระยะยาว (10 ปีขึ้นไป) เช่น เพื่อการเกษียณ โดยใช้ประโยชน์จากพลังดอกเบี้ยทบต้น
- ต้องการความยืดหยุ่น: ต้องการปรับเปลี่ยนสัดส่วนความคุ้มครองและการลงทุนให้เข้ากับสถานการณ์ทางการเงินในแต่ละช่วงชีวิต
- มีวินัยทางการเงิน: สามารถจ่ายเบี้ยประกันอย่างสม่ำเสมอ และพร้อมที่จะจ่ายเบี้ยเพิ่ม (Top-up) หากพอร์ตการลงทุนไม่เป็นไปตามเป้าหมาย
ใครที่กำลังมองหาประกันเภทนี้อยู่ลองเอาข้อมูลไปคุยกับตัวแทนประกันดูนะครับ จะได้คุยกันรู้เรื่องไม่ต้องมั่วเหมือนหวยไวครับ

Comments are closed