ซึ่งทำให้ นักลงทุนหลายคนเลือกที่จะซื้อประกันชีวิตเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การลงทุน แม้ว่าในบางครั้งประกันชีวิตอาจไม่ได้ให้ผลตอบแทนในทันที แต่ก็สามารถให้ประโยชน์ทั้งในด้านการคุ้มครองชีวิตและการออมเงินสำหรับอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หากพิจารณาให้ดีก็จะพบว่า การซื้อประกันชีวิตสามารถตอบโจทย์หลาย ๆ ด้านทั้งในด้านความเสี่ยงส่วนบุคคลและในเชิงการเงินได้อย่างครบถ้วน

1. การบริหารความเสี่ยง

ชีวิตคนเราเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน เช่น การเจ็บป่วยอุบัติเหตุ หรือภัยจากโรคร้ายแรงต่าง ๆ

ประกันชีวิต ช่วยให้เรามีความมั่นคงทางการเงินในยามที่ไม่คาดฝัน สร้างความมั่นใจให้กับครอบครัวและคนที่เรารักในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด นักลงทุนนั้นเข้าใจถึงความสำคัญของการบริหารความเสี่ยง การเลือกซื้อประกันชีวิตจึงเป็นการวางแผนที่เหมาะสมเพื่อรับมือกับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

โดยเฉพาะในกรณีที่นักลงทุนมีภาระทางการเงิน เช่น การดูแลครอบครัว หรือการชำระหนี้สิน เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ประกันชีวิตสามารถทำหน้าที่เป็น “ทุนสำรอง” ให้กับครอบครัวหรือคนที่เหลืออยู่เพื่อให้พวกเขาสามารถดำเนินชีวิตได้ต่อไปโดยไม่ต้องพึ่งพาเงินออมจากผู้ที่จากไป

2. ลดภาระทางการเงินในกรณีเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุ

ในชีวิตของนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมักจะมีความมั่นคงทางการเงินอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องใช้จ่ายเงินจำนวนมากในการรักษาพยาบาล

ดังนั้น การทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองสุขภาพจึงเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะสามารถลดภาระค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ที่อาจเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนที่อาจจะต้องเดินทางบ่อย หรือทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยง

การเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดอาจทำให้เราเสียทั้งเวลาและรายได้ ดังนั้น การทำประกันชีวิตสามารถช่วยบรรเทาความเสียหายทั้งทางด้านการเงินและจิตใจได้ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

ดูแลสภาพจิตใจ
ทรัพย์สินและออมเงิน

3. การสร้างทรัพย์สินและออมเงิน

นักลงทุนมักจะมองหาวิธีการที่ทำให้เงินเติบโตและสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะยาว การทำประกันชีวิตแบบควบการลงทุน (Unit Linked) จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ

เนื่องจากประกันประเภทนี้สามารถช่วยให้ผู้ทำประกันได้รับการคุ้มครองชีวิตและในขณะเดียวกันก็สามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนได้ โดยการนำเงินเบี้ยประกันส่วนหนึ่งไปลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ เช่น หุ้น พันธบัตร หรือกองทุนรวมที่มีความเสี่ยงหลากหลาย

แม้ว่าอาจจะไม่ได้ให้ผลตอบแทนที่สูงในระยะสั้น แต่การลงทุนในระยะยาวผ่านประกันชีวิตแบบควบการลงทุนนี้สามารถสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงในอนาคต ทั้งยังสามารถใช้ประโยชน์จากการลดหย่อนภาษีได้ด้วย ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่นักลงทุนหลายคนให้ความสำคัญ

4. การบริหารภาษี

สำหรับนักลงทุนที่มีรายได้สูง การทำประกันชีวิตยังสามารถช่วยให้ลดภาระภาษีได้ เพราะเงินที่นำไปจ่ายเป็นเบี้ยประกันในบางประเภทอาจได้รับการยกเว้นหรือหักลดหย่อนภาษีตามข้อกำหนดของกฎหมาย ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งประโยชน์ที่สำคัญในการจัดการภาษีอย่างมีประสิทธิภาพ

หากนักลงทุนสามารถทำการวางแผนภาษีที่ดี โดยการเลือกซื้อประกันชีวิตที่ตอบโจทย์การลดหย่อนภาษีได้อย่างเหมาะสม ก็จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน และสามารถนำเงินที่ประหยัดภาษีมาใช้ในการลงทุนหรือการใช้จ่ายอื่น ๆ ได้

บริหารภาษี
ดูแลคนที่เรารัก

5. การดูแลคนที่เรารัก

แม้ว่าประกันชีวิตจะไม่สามารถบอกล่วงหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต แต่ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น การจากไปของผู้ทำประกัน การประกันชีวิตจะทำหน้าที่เป็น “ทุนสำรอง” สำหรับครอบครัวหรือคนที่ยังอยู่ให้มีความมั่นคงทางการเงิน และสามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้

สำหรับนักลงทุนที่มีครอบครัวหรือภาระในการดูแลคนที่รัก การซื้อประกันชีวิตที่มีความคุ้มครองสูงจะทำให้มั่นใจได้ว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต คนที่เรารักจะได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมและไม่ตกอยู่ในความยากลำบากทางการเงิน

6. การวางแผนการเงินระยะยาว

การทำประกันชีวิตที่ดีควรเป็นการวางแผนระยะยาว โดยคำนึงถึงภาระค่าใช้จ่ายและการบริหารการเงินในอนาคต นักลงทุนที่มีการวางแผนการเงินที่ดีจะรู้ว่า การทำประกันชีวิตไม่ใช่แค่การซื้อความคุ้มครอง แต่ยังเป็นการออมเงินระยะยาวเพื่อให้มีเงินสำรองในอนาคต

การทำประกันชีวิตยังสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการวางแผนเกษียณอายุ เพราะหากนักลงทุนเลือกทำประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ หรือประกันชีวิตควบการลงทุน จะช่วยให้สามารถเก็บเงินออมสำหรับอนาคตได้ในรูปแบบที่มีผลตอบแทนที่ดีกว่าการออมเงินในบัญชีธนาคารทั่วไป

แผนการเงินระยะยาว
เลือกซื้อประกัน

7. ความยืดหยุ่นในการเลือกซื้อ

แม้จะมีหลายประเภทของประกันชีวิตที่สามารถเลือกซื้อได้ แต่นักลงทุนสามารถเลือกประเภทที่เหมาะสมกับความต้องการและสถานะทางการเงินของตนเอง เช่น หากต้องการความคุ้มครองด้านสุขภาพ การทำประกันสุขภาพจะเป็นทางเลือกที่ดี หรือหากต้องการผลตอบแทนจากการลงทุนในระยะยาว การทำประกันชีวิตควบการลงทุนก็เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม

การซื้อประกันชีวิตนั้นจึงไม่จำเป็นต้องเป็นภาระที่หนักหนาสำหรับนักลงทุน แต่สามารถเป็นเครื่องมือที่ช่วยเสริมสร้างความมั่นคงทั้งในด้านการเงินและการคุ้มครองในกรณีที่ไม่คาดคิด

สรุป

การทำประกันชีวิตไม่ใช่แค่การทำตามกระแสหรือความจำเป็นเฉพาะตัว แต่เป็นการวางแผนที่ดีสำหรับอนาคต โดยเฉพาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการบริหารจัดการความเสี่ยงและสร้างความมั่นคงให้กับตัวเองและครอบครัวในระยะยาว

การเลือกประกันชีวิตที่เหมาะสมสามารถช่วยให้การลงทุนในชีวิตนั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น และทำให้มั่นใจได้ว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคตจะมีการคุ้มครองและผลตอบแทนที่เหมาะสมสำหรับทุกสถานการณ์

ลงทุนระยะยาว กำไรคืนทุน ไม่เสียผลประโยชน์ สร้างรายได้ที่มั่นคงด้วยตัวเองได้ที่นี่ คลิกเลย